ลงโฆษณาสินค้าฟรี ลงประกาศฟรี ฝากขายฟรี

ลงประกาศฟรี => สินค้า บริการอื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ 18 พฤษภาคม 2025, 15:20:48 pm

หัวข้อ: ลดภาวะแทรกซ้อน "โรคความดันโลหิตสูง" ในผู้สูงอายุ
เริ่มหัวข้อโดย: siritidaphon ที่ 18 พฤษภาคม 2025, 15:20:48 pm
ลดภาวะแทรกซ้อน "โรคความดันโลหิตสูง" ในผู้สูงอายุ (https://doctorathome.com/disease-conditions/247)

การปฏิบัติตัวของผู้สูงอายุที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อน  สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ

    ควบคุมน้ำหนัก
    ไม่สูบบุหรี่
    ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
    ทานยาตามแพทย์สั่ง
    พักผ่อนให้เพียงพอ
    วัดความดันโลหิตสม่ำเสมอ


โรคความดันเลือดสูง ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม

โรคความดันเลือดสูง ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม วันที่ 17 พฤษภาคมของทุกปี ถูกจัดตั้งให้เป็นวันความดันเลือดสูงโลก (World Hypertension Day) เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนได้ตื่นตัว และตระหนัก เห็นความสำคัญของการป้องกัน โรคความดันเลือดสูง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโรคฮิตที่คร่าชีวิตคนไทยและคนทั่วโลก


โรคความดันเลือดสูง คือ

สภาวะของระดับความดันเลือดที่สูงกว่าระดับปกติ โดยทั่วไปแล้วผู้ที่มีความดันเลือดปกติจะวัดค่าความดันได้ 120/80 มิลลิเมตรปรอท แต่ผู้ที่มีความดันเลือดสูงจะวัดค่าความดันได้ตั้งแต่ 140/90 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป และถือว่าเป็นสภาวะที่ต้องได้รับการควบคุมตั้งแต่เนิ่น ๆ เนื่องจากอาจนำมาซึ่งภาวะแทรกซ้อนและโรคต่าง ๆ มากมาย เช่น โรคหัวใจขาดเลือด โรคหัวใจล้มเหลว โรคหลอดเลือดในสมอง โรคไตเสื่อม เป็นต้น

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

ความน่ากลัวของโรคความดันเลือดสูงคือผู้ป่วยส่วนใหญ่กว่า 90-95 เปอร์เซ็นต์ ไม่สามารถตรวจหาสาเหตุที่ชัดเจนได้ว่าเกิดขึ้นจากอะไร ทำให้โรคความดันเลือดสูงถูกขนานนามว่า “โรคเพชฌฆาตเงียบ” โดยทางการแพทย์นั้นได้อธิบายโรคความดันเลือดสูงนี้ว่าเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติของมนุษย์ เช่น เกิดจากกรรมพันธุ์ และอายุที่มากขึ้น โดยส่วนใหญ่จะพบได้มากในผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 40-50 ปีขึ้นไปหรือวัยหมดประจำเดือน

วิธีรักษา

แม้โรคความดันเลือดสูงจะเป็นโรคที่อันตราย แต่ก็เป็นโรคที่สามารถควบคุมได้ในระยะยาวหากได้รับการรักษาที่ทันท่วงที โดยเบื้องต้นจะรักษาด้วยวิธีการให้ยาลดความดันเลือด เพื่อรักษาระดับความดัน ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน นอกจากการรับประทานยาแล้ว ผู้ป่วยควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนี้

สิ่งที่ควรทำ

    หมั่นตรวจวัดความดันเลือดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
    รับประทานอาการให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก และผลไม้ชนิดที่ไม่หวาน
    ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
    ออกกำลังเป็นประจำ
    พักผ่อนให้เพียงพอ
    รักษาสุขภาพจิตให้ดีอยู่เสมอ ไม่เครียด

สิ่งที่ไม่ควรทำ

    สูบบุหรี่ เพราะสารพิษในควันบุหรี่ ส่งผลให้เกิดการอักเสบ ตีบตัน ของหลอดเลือดต่าง ๆ รวมทั้งหลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดไต
    ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทำให้มีโอกาสเป็นโรคความดันเลือดสูงถึงร้อยละ 50
    กินอาหารที่มีรสเค็ม หรืออาหารที่มีโซเดียมมากเกินไป เช่น กะปิ นํ้าปลา ของหมักดอง
    กินอาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อติดมัน หนังสัตว์ ไข่แดง หอยนางรม อาหารประเภทผัดหรือทอด
    กินอาหารที่มีรสหวาน หรือน้ำตาลสูง เช่น น้ำหวาน ขนมหวาน