ผู้เขียน หัวข้อ: Mitsubishi Triton 2024: MITSUBISHI TRITON DOUBLE CAB ULTRA รุ่นท็อป  (อ่าน 17 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 446
    • ดูรายละเอียด
Mitsubishi Triton 2024: MITSUBISHI TRITON DOUBLE CAB ULTRA รุ่นท็อป
« เมื่อ: 26 กันยายน 2024, 15:04:03 pm »
Mitsubishi Triton 2024: MITSUBISHI TRITON DOUBLE CAB ULTRA รุ่นท็อป

มิตซูบิชิ เปิดสเปกรถกระบะไทรทันใหม่ 2 รุ่นท็อป ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ “ไฮเปอร์พาวเวอร์ เอ็กซ์ทู” (Hyper Power X2) ด้วยพละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร และ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ อัลตร้า เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ “ไฮเปอร์พาวเวอร์” (Hyper Power) กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ให้อัตราประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม


ALL-NEW TRITON DOUBLE CAB ULTRA รุ่นท็อป และ ALL-NEW  TRITON ATHLETE

ALL-NEW TRITON DOUBLE CAB ULTRA และ ALL-NEW  TRITON ATHLETE ราคาเท่าไร

    ALL-NEW TRITON DOUBLE CAB ULTRA ราคาเริ่มต้น 1,228,000 บาท
    ALL-NEW  Mitsubishi TRITON Athlete ราคาประมาณการที่ 1,130,000 -1,300,000 บาท

(ALL-NEW TRITON DOUBLE CAB ULTRA รับรถได้ในครึ่งเดือนแรกของเดือนธันวาคม 2566 ส่วน ALL-NEW  Mitsubishi TRITON Athlete คาดว่าสามารถส่งมอบรถล็อตแรกได้ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2567)

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้ออกแบบออล-นิว ไทรทัน ทุกรุ่นขึ้นใหม่ทั้งหมด เพื่อตอบโจทย์ความเป็นรถปิกอัพส่วนตัวสำหรับคนยุคใหม่ โดยเน้นที่ความสะดวกสบายสุดหรูของห้องโดยสาร เติมเต็มสุนทรียภาพขณะขับขี่ให้เทียบเคียงได้กับรถเอสยูวียุโรป พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ครบครัน ตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูงให้ความนุ่มนวลทุกสัมผัสจับถนัดคล่องตัว ทั้งยังมีเบาะดีไซน์ใหม่ที่ช่วยโอบอุ้มสรีระลดความเหนื่อยล้าแม้ต้องขับในระยะไกล ผสานช่วงล่างใหม่ แชสซีส์ใหม่ที่ใหญ่ขึ้น

และเฟรมใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม (เมกาเฟรม) ให้สมรรถนะการขับขี่ที่นุ่มสบาย คล่องตัวทั้งในเมืองและขณะเดินทางไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ออล-นิว ไทรทัน แอทลีท ที่สุดของรถปิกอัพสไตล์สปอร์ต โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน สะกดทุกสายตาด้วยเส้นสายที่คมเข้ม ขณะที่ ออล-นิว ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ อัลตร้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ ได้รับการออกแบบในสไตล์โฉบเฉี่ยว หล่อเข้มไม่ซ้ำใคร

มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท-ดับเบิ้ล แค็บ อัลตร้า ใหม่ 2023-2024

ระบบขับเคลื่อนมิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท-ดับเบิ้ล แค็บ อัลตร้า ใหม่ 2023-2024

ออล-นิว ไทรทัน แอทลีท-ดับเบิ้ล แค็บ อัลตร้า 2023-2024 ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ “ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู” (Super Select 4WD II) เจ้าเดียวในตลาดที่มี 4H ฟูลไทม์ เสริมด้วยระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC)  และ 7 โหมดการขับขี่

ออล-นิว ไทรทัน แอทลีท ขับเคลื่อน 4 ล้อ (DOUBLE CAB ATHLETE 4WD 2.4 AT) และ ออล-นิว ไทรทัน
ดับเบิ้ล แค็บ อัลตร้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ (DOUBLE CAB 2.4 ULTRA 4WD AT)  พร้อมพาคุณไปให้สุดทุกสภาพถนน ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ “ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู” (Super Select 4WD II) อันเป็นเอกลักษณ์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อฟูลไทม์ (Full-Time All Wheel Control) ซึ่งสามารถเปลี่ยนโหมดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นขับเคลื่อน 4 ล้อแบบฟูลไทม์ (4H) ได้ทันทีแม้ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง (Shift-on-the-Fly) เสริมความปลอดภัยให้ขับขี่คล่องตัวพร้อมตะลุยทุกสภาพอากาศและทุกรูปแบบของพื้นผิว ด้วย 7 โหมดการขับขี่ ได้แก่

    โหมดปกติ (Normal)
    โหมดประหยัดเชื้อเพลิงและรักษ์โลก (Eco)
    โหมดขับขี่บนทางลูกรังหรือทางฝุ่น (Gravel)
    โหมดขับขี่บนพื้นหิมะหรือขณะฝนตกผิวถนนเปียกลื่น (Snow)
     โหมดขับขี่ลุยโคลนหรือผิวทางที่เหนียวลื่น (Mud)
    โหมดขับขี่ตะลุยทรายหรือผิวทางที่ดินร่วน (Sand)
    โหมดไต่หินหรือขับขี่บนผิวทางที่เป็นหินขรุขระ (Rock)

และแตกต่างอย่างเหนือกว่าด้วยระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC)

เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ไดมอนด์ เซนส์ ที่มาพร้อมกับระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ  (Diamond Sense with Adaptive Cruise Control)

ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ทั้งในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อ และ ดับเบิ้ล แค็บ อัลตร้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ไดมอนด์ เซนส์ ทีมีระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ  (Diamond Sense with Adaptive Cruise Control) อันชาญฉลาด ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation System: FCM) ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW) พร้อมระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist: LCA) ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA)

ระบบปรับระดับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ (Auto High Beam: AHB) กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor: MAM) ซึ่งเทคโนโลยีความปลอดภัยทั้งหมดนี้ สามารถตรวจจับการเคลื่อนที่ของตัวรถและสภาพแวดล้อมด้วยเซ็นเซอร์และเรดาร์ที่ควบคุมด้วยระบบ AI ได้รอบคัน เพื่อความปลอดภัยแบบ 360 องศา ทั้งยังมีระบบความปลอดภัยอื่นๆ ที่ช่วยให้ขับขี่ได้ง่ายดายควบคุมรถได้ดังใจ อาทิ

    ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA)
    ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
    ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS)
    ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD)
    ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
    ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC)
    ระบบป้องกันการลื่นไถล (TCL)
    ระบบลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้ายแบบควบคุมด้วยเบรก (Active LSD)
    เสริมด้วยถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ “ไฮเปอร์พาวเวอร์ เอ็กซ์ทู” (Hyper Power X2) ซึ่งมีระบบเทอร์โบสองสเตจ (Two-stage Turbocharger) และระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า (Electric Power Steering: EPS) ช่วยให้ขับขี่คล่องตัว ควบคุมได้ดังใจ โดยคุณสมบัติอันโดดเด่นทั้งหมดนี้เพียบพร้อมอยู่ใน ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ซึ่งมีสีตัวถังให้เลือก 4 สี คือ สีดำ Jet Black Mica สีเทา Graphite Grey สีขาว White Diamond และพิเศษกับสีส้ม Yamabuki Orange Metallic ที่เป็นสีเฉพาะของรุ่นแอทลีท โดดเด่น สะกดทุกสายตา และภายในห้องโดยสารยังคงดีไซน์สปอร์ตด้วยการตกแต่งทูโทนสีส้ม-ดำ

Diamond Sense with ACC

เทคโนโลยี “มิตซูบิชิ คอนเนค” (MITSUBISHI  CONNECT) ใช้งานง่าย สั่งการตัวรถได้จากระยะไกล เพิ่มความอุ่นใจในทุกมิติ เทคโนโลยีเทเลมาติกส์ (Telematics) ซึ่งเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างคุณและรถยนต์ ซึ่งมีชื่อว่า “มิตซูบิชิ คอนเนค” (MITSUBISHI  CONNECT) ที่ติดตั้งในออล-นิว ไทรทัน แอทลีท ทั้งในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อ รวมถึง ออล-นิว ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ อัลตร้า เกียร์อัตโนมัติ สามารถรองรับได้ทั้งระบบ iOS และ Android โดยเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน “My MITSUBISHI CONNECT” เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในสั่งการตัวรถได้แบบไร้สายจากระยะไกล ใช้งานง่าย ทั้งการเปิดระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารได้จากระยะไกล การล็อกและปลดล็อกประตูรถ

การค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของตัวรถ การเปิดไฟส่องสว่าง และการกดแตรรถ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบข้อมูลสถานะตัวรถ เช่น ระดับน้ำมันคงเหลือและระยะทางที่วิ่งต่อได้ ความดันลมยาง มีฟังก์ชันความปลอดภัยอื่นๆ อาทิ บริการช่วยเหลือบนถนน (Roadside Assistance)  การแจ้งอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ การช่วยเหลือเมื่อรถถูกโจรกรรม (Stolen Vehicle Assistance) และอุ่นใจตลอดเส้นทางด้วยระบบขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS ผ่านตัวรถ (e-call)

 

ลงประกาศฟรี ติดอันดับ Google โฆษณาฟรี ประกาศฟรี ขายฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว ลงโฆษณาฟรี google