โรคปอดอักเสบ อย่าปล่อยให้รุนแรงโรคปอดอักเสบ (Pneumonia) คือภาวะที่ปอดเกิดการอักเสบจากการติดเชื้อ ทำให้ถุงลมในปอดเต็มไปด้วยของเหลว ส่งผลให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรค
โรคปอดอักเสบส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งมีหลายชนิด ดังนี้
แบคทีเรีย: เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด สามารถเกิดขึ้นได้เอง หรือเกิดขึ้นหลังจากเป็นหวัดหรือไข้หวัดใหญ่
ไวรัส: เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่, ไวรัส RSV, และไวรัส SARS-CoV-2 (โควิด-19)
เชื้อรา: พบได้น้อยกว่าและมักเกิดขึ้นในผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
อาการที่ต้องเฝ้าระวัง
อาการของโรคปอดอักเสบอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่โดยทั่วไปแล้วมักมีอาการดังนี้
ไอมีเสมหะ: อาจมีเสมหะสีเหลือง เขียว หรือมีเลือดปน
ไข้สูง และหนาวสั่น: เป็นอาการที่พบบ่อยในช่วงแรก
หายใจหอบเหนื่อย: หายใจสั้น หายใจลำบาก หรือรู้สึกเหมือนหายใจไม่ทั่วท้อง
เจ็บหน้าอก: โดยเฉพาะเมื่อหายใจเข้าลึกๆ หรือเวลาไอ
อ่อนเพลีย: รู้สึกไม่มีแรง และเบื่ออาหาร
อันตรายและภาวะแทรกซ้อน
หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา โรคปอดอักเสบอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
ภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด: ของเหลวสะสมในเยื่อหุ้มปอด ทำให้หายใจลำบากมากขึ้น
ภาวะหายใจล้มเหลว: ปอดไม่สามารถแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้เพียงพอ ทำให้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด: เชื้อโรคจากปอดเข้าสู่กระแสเลือดและแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
การป้องกันที่ทำได้ด้วยตัวเอง
ฉีดวัคซีน: การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และวัคซีนนิวโมคอคคัส (Pneumococcal Vaccine) เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคปอดอักเสบ
ล้างมือให้บ่อย: เพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับเชื้อโรคต่างๆ
รักษาสุขภาพให้แข็งแรง: ทานอาหารที่มีประโยชน์, ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำลายปอด
การรู้ทันอาการและรู้จักการป้องกันจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคปอดอักเสบได้ หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการที่น่าสงสัย ควรรีบไปปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุดค่ะ